ในการประชุมแมลงศัตรูร้ายของบ้านเรือน ปี 2551 หรือ “Pest Summit 2008″ ซึ่งไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพ มีผู้บริหารจากบริษัทกำจัดแมลงและนักกีฏวิทยาจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย มาร่วมประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และเทคนิคใหม่ล่าสุดในการกำจัดแมลง โดยเฉพาะการกำจัดแมลงโดยไม่ใช้สารเคมี และเพียงประเทศไทยประเทศเดียว อุตสาหกรรมกำจัดแมลงนี้มีเม็ดเงินสูงถึง 3,500 ล้านบาทต่อปี
งานยังจัดการประกวดราชาแมลงสาบและราชินีปลวก ผู้ได้รับรางวัลละ 10,000 บาท ไปครองในปีนี้คือ นางเยียบเบ็งเคี้ยก ชาวมาเลเซีย เจ้าของแมลงสาบพันธุ์อเมริกัน ความยาว 4.2 เซนติเมตร พบในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และนายชัยมนต์ จันทรพิทักษ์ เจ้าหน้าที่ยูเนี่ยนออฟยูนิคอร์กรุ๊ป
เจ้าของปลวกความยาว 7.1 เซนติเมตร พบในค่ายทหารที่เขาหลัก จังหวัดพังงา
นายสุชาติ ลีละยุทธโยธิน ผู้อำนวยการสมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลงแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “แมลงสาบแต่ละตัวสามารถออกลูก 600 ตัว ส่วนนางพญาปลวกก็เหมือนกับเครื่องจักรที่ออกลูกได้ เพราะถ้ากำจัดนางพญาปลวกไปได้ก็หมายถึงกำจัดปลวกได้ 100,000 ตัว แมลงยังเป็นตัวการทำให้โลกร้อนด้วยการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา โดยเฉพาะปลวกเวลากินเซลลูโลสจากไม้ เมื่อโลกร้อนขึ้นชีวิตของแมลงสาบและปลวกจะสั้นลง ทำให้มันมีวงจรชีวิตเร็วขึ้น ผลิตลูกหลานได้มากขึ้น”
นายสุชาติยอมรับว่า “การกำจัดแมลงนั้นยากมาก เพราะแมลงอยู่คู่โลกนานกว่าเราเสียอีก อย่างแมลงสาบมีชีวิตอยู่บนโลกนานถึง 350 ล้านปีแล้ว
ทางที่ดีที่สุดในการกำจัดแมลงกำจัดปลวกคือ ก่อนสร้างบ้านควรอัดน้ำยาฆ่าปลวกลงดิน เพราะน้ำยานี้จะป้องกันปลวกได้หลายสิบปี พร้อมรักษาความสะอาดและให้บ้านมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
เมื่อจะจ้างบริษัทกำจัดปลวกอย่าลืมว่าต้องหาบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจาก อย.”